MSI Prestige PS42 8RA เป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานประสิทธิภาพดีเยี่ยม ที่มีความบางเบาเป็นพิเศษดีไซน์การออกแบบโดยรวมจัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอขนาด 14″ ที่มีความเล็กกระชับมากๆ ขอบจอบางเฉียบ วัสดุเป็นอลูมิเนียมสีเงินตลอดทั้งตัวให้ ซึ่งให้ทั้งความหรูหราและแข็งแรงทนทาน นับว่าทาง MSI ทำได้ดีไม่แพ้ในส่วนของ Gaming Notebook ของตนเองเลย โดยมีความบางเพียง 15.9 มม. และน้ำหนักที่เบาเพียง 1.19 กิโลกรัม รูปแบบ Ultrabook เรียกได้ว่าถือมือเดียวได้สบายๆ พกพาไปใช้งานนอกบ้านได้อย่างสะดวก
มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i5-8265U พ่วงมาด้วยกราฟิกการ์ดจาก NVIDIA GeForce MX250 ติดตั้งแรมมาขนาด 8GB DDR4 พร้อม SSD NVMe ความจุ 512GB ได้ Windows 10 ในราคาเพียง 26,900 บาท มีระบบรักษาความปลอดภัยเข้าใช้งาน Windows 10 ด้วย Fingerprint ที่จะช่วยให้เข้าใช้งานสะดวกดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น อีกทั้งด้วยที่เป็นพาเนล IPS ช่วยให้มุมมองในการมองเห็นเพิ่มมากยิ่งขึ้น พร้อมขอบเขตสีที่กว้างกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป เรียกได้ว่าทั้งสเปก ฟีเจอร์ วัสดุ เหนือกว่าโน๊ตบุ๊คบางเบาหลายๆ ค่ายในราคาที่ถูกกว่าด้วย
VDO Review
Specification
สเปกภายในของตัว MSI Prestige PS42 8RA ที่เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด ที่เราได้รับมาทดสอบจะเป็นรุ่น Core i5 โดยมาพร้อมขนาดหน้าจอ 14 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ซึ่งให้สีสันที่สวยสมจริง มุมมองกว้างถึง 170 องศา ด้านประสิทธิภาพด้วยอย่างการใช้ชิปประมวลผล Intel Core i5-8265U ความเร็ว 1.6GHz ที่สามารถเร่งการทำงานไปได้ถึง 3.9GHz โดยเป็นชิปประหยัดพลังงานพิเศษ แบบ 4 คอร์ 8 เทรด ซึ่งแน่นอนว่าให้ทั้งความแรงและใช้งานได้ยาวนาน เป็นสถาปัตยกรรม Intel Core i Gen 8 (Whiskey Lake)
ส่วนแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB DDR4 Bus 2666 MHz ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานแน่นอน ในส่วนของกราฟิกการ์ดก็เป็น NVIDIA GeForce MX250 2GB GDDR5 ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานรองรับ 3 มิติได้ดี เล่นเกมออนไลน์ได้สบายๆ สำหรับฮาร์ดดิสก์ความเร็วสูงแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wireless AC และ Bluetooth 5.0 ด้วย อีกทั้งยังมีน้ำหนักเพียง 1.19 กิโลกรัมเท่านั้น !!!
นอกจากนี้ในส่วนของกล้องด้านหน้ารองรับการใช้งาน VDO Call ติดตั้งไว้ใต้หน้าจอ เพราะขอบจอบางมากๆ รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้มาใช้งานได้ทันทีในการเปิดเครื่องครั้งแรก สนนราคา MSI Prestige PS42 8RA อยู่ที่ 26,900 บาท ส่วนอีกรุ่นที่เป็นสเปก Core i7-8565U และได้แรม 16GB จะมีราคาอยู่ที่ 35,900 บาท พร้อมการรับประกัน 2 ปี ตามมาตรฐานของ MSI
- Core i5-8265U / MX250 / RAM 8GB / SSD 512GB / Windows 10 ราคา 26,900 บาท
- Core i7-8565U / MX250 / RAM 16GB / SSD 512GB / Windows 10 ราคา 35,900 บาท
Hardware / Design
สำหรับ MSI Prestige PS42 8RA ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบา (มากๆ ด้วย) แต่ให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดี ในราคาที่คุ้มค่าที่สุดรุ่นนึงในตลาด โดยถูกต่อยอดมาจาก MSI Prestige รุ่นก่อนทำได้ดีมากๆ ในเรื่องของการดีไซน์ที่เน้นความบางเบา พกพาได้สะดวก โดยยังรักษาความเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานมืออาชีพได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.19 กิโลกรัม ทำให้ถือมือเดียวได้สบายๆ การออกแบบให้ความรู้สึกที่พรีเมียมหรูกราด้วยวัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง
โดยฝาหลังและดีไซน์ทั้งหมดมีการเลือกใช้ให้มีความเข้ากันอย่างที่สุด กับพื้นผิวส่วนของฝาหลังและตัวเครื่องด้านในเป็นลวดลายแบบปัดเสี้ยน พร้อมกับใช้สีเงิน Silver และเทาสว่าง ตลอดทั้งตัวเครื่อง ตั้งแต่โลโก้ ขอบตัวเครื่อง ทัชแพด แกนบานพับ ช่องระบายความร้อน ซึ่งดูแล้วเป็นการเปลี่ยนจากรูปแบบเดิมๆ ที่โน๊ตบุ๊คสายทำงานมืออาชีพต้องดูดำๆ ดีไซน์โบราณ ให้กลายเป็นโน๊ตบุ๊คที่ดูน้อยแต่ให้ภาพลักษณ์ที่ดีเยี่ยมได้แทนนั่นเอง เชื่อได้ว่าหลายคนน่าจะเห็นตรงกันด้วย
ส่วนปุ่มเปิดปิดเครื่องจะอยู่ตรงกลางเหนือชุดคีย์บอร์ด พร้อมบริเวณรอบๆ ก็เป็นช่องดูดลมเย็นเช่นกันเพื่อให้ช่วยระบายความร้อนที่ดีกว่าเดิม ส่วนไฟ LED แสดงสถานะการทำงาน ต่างๆ จะอยู่ขอบตัวเครื่องด้านซ้ายสวยงาม MSI Prestige PS42 8RA ใช้เทคโนโลยี Cooler Boost แบบพัดลม 2 ตัวอยู่ทางด้านหลังและด้านข้างของตัวเครื่อง เป่าไล่ลมร้อนผ่านชุดระบายที่แยกการระบายความร้อนระหว่างชิปประมวลผล (พัดลม 1 ตัว) และกราฟิกการ์ด (พัดลม 1 ตัว) ด้วย Heat Pipes รวมกันถึง 3 เส้น โดยแยกฝั่ง CPU และ GPU ออกจากกัน ในเรื่องของอุณหภูมิ และความทนทานในการใช้งานฮาร์ดแวร์ในระยาวไม่ว่าจะทำงานหนักแค่ไหนก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความร้อนสะสม
ที่สำคัญไม่พูดไม่ได้เลยกับขอบหน้าจอที่บางลงอย่างเห็นได้ชัดที่ 5.7 มิลลิเมตร ทั้งด้านซ้ายขวาและขอบบน กล้องเว็บแคมถูกติดตั้งลงไปบนขอบที่บางมากๆ ซึ่งการใช้งานจริงมุมมองมันก็จะดูปกติดี ต่างจากบางแบรนด์ที่เลือกย้ายที่ไปเลย ส่วนความบางตัวเครื่องอยู่ที่ 15.9 มิลลิเมตรเท่านั้น โดยรวมถือได้ว่า MSI นำเสนอโน๊ตบุ๊คที่ทั้งเบามากๆ แถมยังบางสุดๆ ในความแรงและระบบระบายความร้อนที่ดี ท้าชนกับแบรนด์อื่นๆ ได้อย่างสบายๆ เลย
ด้านฐานล่างตัวเครื่องจากรุ่นก่อนใช้วัสดุผ้าอลูมิเนียมชิ้นเดียวตลอดทั้งชิ้น ลักษณะเป็นอะลูมิเนียมเรียบๆ แตกต่างจากฝาหลังและตัวเครื่องด้านใน พร้อมมียางรองจำนวน 5 จุด ช่วยยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ช่วยส่งมวลลมเย็นถูกดูดเข้าช่องลมขนาดใหญ่ได้มากขึ้นส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดี ซึ่งเป็นเรื่องที่ทาง MSI ใส่ใจเป็นพิเศษอยู่แล้วไม่แพ้ฝั่ง Gaming Notebook เลย
ส่งผลให้ตลอดทั้งตัวเครื่องมีมิติตัวเครื่องที่เล็กลงกว่าโน๊ตบุ๊คทำงานหน้าจอ 14″ ทั่วไป ซึ่งโดยรวมแล้ว MSI Prestige PS42 8RA ไม่ใช่แค่บางเบาและสเปกดีแต่ในประสบการณ์ใช้งานที่ประทับใจ เรียกได้ว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในโน๊ตบุ๊คสายบางเบาเน้นพกพาช่วงงบประมาณไม่เกิน 30,000 บาทก็ว่าได้เลย ที่แม้ราคาจะไม่แพงแบบแบรนด์อื่นๆ แต่จัดเต็มทุกฟีเจอร์จริงๆ บอกได้เต็มบอกว่าคุ้มค่าน่าซื้อจริงๆ
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ MSI Prestige PS42 8RA เห็นแล้วต้องบอกว่าแตกต่างจากโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ของทาง MSI แบบสิ้นเชิง ทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด ด้วยการที่รูปแบบปุ่มมีขนาดที่ใหญ่โตกว่าคีย์บอร์ด MSI แบบเดิมๆ ที่สำคัญด้วยไฟ LED สีขาวสวยงาม เข้ากับตัวปุ่มสีเงินเทาเป็นอย่างดี ดูแล้วสะอาดตา พรีเมียมสุดๆ แน่นอนว่าไม่มีชุด Numpad อยู่แล้ว จากการที่ตัวเครื่องมีมิติที่ลงนั่นเอง
ทัชแพดมีขนาดใหญ่ โดยดูเป็นเนื้อเดียวกับตัวเครื่อง ตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด ส่วนปุ่มคลิกทั้งซ้ายขวาก็อาจจะมีความแข็งพอดีๆ การใช้งานโดยจัดได้ว่าอยู่ในระดับรับได้ มีการตัดขอบด้านบนดูโค้งมน เข้ากับตัวเครื่องโดยรวม อีกทั้งมีฟีเจอร์อย่างสแกนลายนิ้วมือ Fingerprint ติดตั้งไว้มุมขวาบนของทัชแพดไว้ให้ใช้งานร่วมกับ Windows Hello เพื่อที่จะเข้าใช้งานตัวเครื่องเพื่อความปลอดภัยแบบไม่ต้องใส่รหัสไปมาทุกครั้งอีกด้วย ส่วนการใช้งานก็ตอบสนองได้รวดเร็วไม่แพ้มือถือในปัจจุบันเลยล่ะ
Screen / Speaker
MSI Prestige PS42 8RA ได้ติดตั้งหน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานที่ค่อนข้างน่าประทับใจ โดยการใช้หน้า Desktop ปกติที่ตัวหนังสือหรือปุ่มต่างๆ มีความเรียบเนียนตาทำให้ใช้งานได้สะดวก ขอบจอจะเป็นพลาสติกสีดำบางฉียบเพียง 5.7 มิลลิเมตรเท่านั้น เรียกได้ว่ากำลังพอดีทีเดียวในการแสดงผลใช้งาน
ด้วยความที่จอเป็นแบบด้านพาเนล IPS ที่ให้เรื่องสีสันสดใส แต่ในการใช้งานไม่ควรหันจอไปทางแหล่งกำเนิดแสงหรือในที่ที่สว่างมากๆ เพราะอาจจะรบกวนการทำงานของเราได้ เมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี ส่วนบานพับก็แข็งแรงกว่ารุ่นพร้อมกางได้ถึง 180 องศา โดยมีมุมมองของเว็บแคมที่แปลกตากว่ากว่ารุ่นอื่นๆ เพราะติดตั้งไว้ขอบหน้าจอด้านล่าง
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่นเล็กน้อย
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 92% และ AdobeRGB ที่ 72% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันแค่พอใช้เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ควรคาลิเบรตเสียก่อน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องมุมล่างด้านซ้ายและขวาเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ไม่มีผิดเพี้ยน แต่สำหรับช่องมุมบนซ้ายเจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปที่ 9% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ลำโพงยังจัดวางมาในตำแหน่งส่วนของขอบตัวเครื่องด้านหน้าในส่วนด้านใต้เครื่อง แบบขนาด 2W x 2 คุณภาพเสียงจัดว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปเล็กน้อย เพราะชุดลำโพงข้างในขยับได้เมื่อต้องการเสียงทุ่มโดยมีซอฟแวร์ปรับแต่งเสียง Nahimic เวอร์ชั่น 3 สู่ระบบเสียงที่ดีที่สุด คุณภาพเสียงการใช้งานต่าง ๆ ยังสามารถทำออกมาได้ดี น่าประทับใจให้เสียงที่ดังพอตัว
Connector / Thin And Weight
MSI Prestige PS42 8RA จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานบางเบาหน้าจอ 14″ ซึ่งมีขนาดและมิติโดยรวมเล็กกระทัดรัดกว่าปกติ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น 2 x USB 3.1 Type-A , USB 3.1 Type-C, 1x HDMI 1.4, SD Card Reader และ Mic-in/Headphone-out อย่างไรก็ตาม พอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ อาจจะดูไม่มากมายเท่าพวกโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ แต่ในการใช้งานจริงก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้วล่ะ อีกทั้งมีเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 802.11 ac พร้อมใช้งานตามมาตรฐานโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ปี 2019
ส่วนของการพกพาของ MSI Prestige PS42 ก็ถือว่าทำได้เยี่ยมยอดเมื่อเทียบกับสเปก ด้วยน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.19 กิโลกรัมเท่านั้น ดีกว่าตามมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คค่ายอื่นๆ ที่ใช้สเปกนี้มาก ที่สำคัญอแดปเตอร์จ่ายไฟที่ 65 Watt นั้น มีขนาดที่เล็กและเบาเช่นเดียว พร้อมมีซอฟต์เคสให้ด้วย ทำให้การพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ เป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวก น้ำหนักโดยรวมแล้วไม่เกิน 1.5 กิโลกรัมแน่นอน นับว่า MSI Prestige PS42 8RA เป็นอีกหนึ่งโน๊ตบุ๊คสายทำงานจริงจังที่เหมาะกับการใช้งานตามร้านกาแฟ ออฟฟิศ มหาวิทยาลัยมากๆ เครื่องหนึ่ง
Performance / Software
MSI Prestige PS42 8RA มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home Single Language มาตั้งแต่แกะกล่อง ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องลิขสิทธิ์ Windows เลยครับ ส่วนถ้าต้องการเคลียร์เครื่อง ก็สามารถใช้งานฟังก์ชัน Reset this PC ที่อยู่ใน Settings ของ Windows 10 ได้เลยโดยไม่ต้องฟอร์แมต SSD เพื่อลง Windows ใหม่
เมื่อตรวจสอบข้อมูลของชิปประมวลผลด้วยโปรแกรม CPU-Z ก็พบว่าข้อมูลขึ้นมาครบถ้วนเลยครับ โดย MSI Prestige PS42 8RA เป็นรุ่นชิป Intel Core i5-8265U ที่มี 4 คอร์ 8 เธรดสำหรับการประมวลผล ความเร็วพื้นฐานอยู่ที่ 1.6 GHz ไปจนถึง 3.9 GHz มีค่า TDP ในการปลดปล่อยความร้อนสูงสุดแค่ 15W เท่านั้น ซึ่งจัดว่าต่ำมากสำหรับชิป Core i5 ในโน๊ตบุ๊ค ทำให้ตัวเครื่องโดยรวมไม่ร้อนจนเกินไป ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากการใช้สถาปัตยกรรมการผลิตที่ระดับ 14 นาโนเมตรเท่านั้น
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 620 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา และนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการ์ดจอน้องเล็กรุ่นล่าสุดอย่าง NVIDIA GeForce MX250 (2GB GDDR5) ที่ประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับ GTX 950m เลยทีเดียว ซึ่งสามารถเล่นเกม 3 มิติ พอได้บ้าง เดี๋ยวไปดูผลทดสอบกันอีกที
ส่วนการทดสอบพลังประมวลผลด้วยโปรแกรม Cinebench ก็ให้ผลคะแนนในส่วนของ CPU ได้ดีตามระดับของ Core i5 ในรหัส U ส่วนด้านของ OpenGL ก็คะแนนพุ่งกว่าเครื่องที่ใช้ชิปออนบอร์ดทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นประหยัดพลังงาน ที่ใกล้เคียงกับตระกูล H ทีเดียว โดยดีขึ้นกว่า Core i5 รุ่นก่อนหน้าประมาณนึง
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้เป็น SSD ความเร็วสูงแบบ NVMe M.2 ระดับกลางๆ ที่ความจุ 512GB ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจ กับความเร็วระดับ Read: 1566 MB/s – Write: 829 MB/s ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือแบบลูกผสมอย่าง SSHD แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด การใช้งานโดยรวมก็ลื่นไหลน่าประทับใจมากๆ
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3,423 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ ส่วนถ้าเอาไปใช้งานหนักๆ เช่นงานประมวลผล ตัดต่อวีดีโอ โปรเซสไฟล์ภาพความละเอียดสูง รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติ ซึ่งก็พอได้ แต่คงตอบสนองได้ไม่เท่าพวก Gaming Notebook หรือโน๊ตบุ๊คแรงๆ ที่ใช้ Core i ตระกูล H และการ์ดจอ GTX / RTX
ทดสอบเกมสำหรับ MSI Prestige PS42 8RA คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 3 ออนไลน์ เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยค่อนข้างลื่นไหล น่าประทับใจทีเดียว เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คที่ไม่ได้เน้นเล่นเกมมาก ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i5-8265U ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce MX250 ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 รวมไปถึง SSD ก็ส่งผลช่วยด้วย
เกมออนไลน์อย่าง DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมด ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ใกล้เคียง 60 ขึ้นไปตลอด แต่ในส่วนของเกมอื่นๆ อย่าง Overwatch / PUBG ที่ปรับกลางๆ เรียกได้ว่ามีเฟรมเรทตกไปต่ำกว่า 30 เลย ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเป็นเกมออนไลน์ที่กินทรัพยากรพอตัวเหมือนกัน ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ อยู่
ที่สำคัญยังมี Creator Center เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบและพัฒนาโดย MSI ซึ่งคล้ายกับ Dragon Center เป็นโปรแกรมที่เป็นจุดเด่นของ Gaming MSI ก็ถูกมาปรับใช้ใน MSI Prestige PS42 8RA นี้ด้วย จุดเด่นคือใช้งานง่ายและสามารถช่วยเหลือ และ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Notebook ได้อย่างลงตัว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ของทาง MSI ก็ว่าได้ ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยหน้าเมนูมีอาทิเช่น
- Creator Mode : ศูนย์รวมโปรแกรม ที่ใช้งานในงานสร้างสรรค์ต่างๆ ที่เรามี
- System Monitoring : ตรวจสอบสถานะเครื่อง (ประสิทธิภาพ,ความเร็วของพัดลม,ความร้อน)
- System Tuner : ปรับแต่งตั้งค่าการใช้งานต่างๆของ MSI Notebook
- Battery Master : ปรับแต่งการชาร์จแบตเตอรี่ให้เหมาะกับการใช้งาน
- Tools & Help : ติดต่อ MSI และ ฟังก์ชั่นช่วยเหลือต่างๆ ที่จำเป็น
หรือจะย่อเป็นหน้าต่างโปรแกรมเล็กๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน ก็ดูเก๋ๆ ไปอีกแบบ สะดวกใช้งานด้วย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI Prestige PS42 8RA เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว พร้อมปรับเป็น Power Saver Mode และ Super Battery โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราว 10 ชั่วโมงโดยประมาณ ถือว่าใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานอย่างที่เคลมเอาไว้ว่าที่ 10 ชั่วโมง แต่โดยส่วนตัวก็ถือว่าดีเยี่ยม คราวนี้จะพกพาอแดปเตอร์ไปด้วยก็แล้วแต่การใช้งานของเราเลย
สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 33 – 43 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของ CPU อยู่ที่ไม่เกิน 90 องศาเซลเซียส และ GPU อยู่ที่ไม่เกิน 92 องศาเซลเซียส ส่วนเสียงพัดลมก็ดังพอสมควร จากการที่เปิดฟีเจอร์ Cooler Boots เพิ่มรอบพัดลมเป็น 6,000 รอบต่อ แต่ถ้าใช้งานทั่วไป พัดลมแทบไม่มีเสียงเลย
Conclusion / Award
ยอมรับเลยว่า MSI Prestige PS42 8RA เป็นโน๊ตบุ๊คสายบางเบา แต่ให้ประสิทธิภาพการทำงานที่สูง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คสายทำงาน ในราคาที่ไม่แพงจัดว่าคุ้มค่ามากๆ เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ วัสดุการออกแบบที่ดูพรีเมียม น้ำหนักที่เบากว่า ในสเปกที่สูงกว่า ฟีเจอร์ที่มากกว่า การระบายความร้อนที่ดีกว่า ที่สำคัญคือได้ราคาที่ถูกกว่า คุ้มค่ากว่า
จากที่ปกติเราจะเห็นแต่สาย Gaming ถึงเวลาที่ MSI จะต้องออกผลิตภัณฑ์ตระกูล Prestige ตัวใหม่ จึงนำมาประยุกต์เข้ากับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ และตัวเองถนัด อย่างการนำข้อดีต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ตระกูล Gaming มาทำให้มีความเป็นมืออาชีพ เหมาะสำหรับการทำงานที่เกี่ยวข้องกับภาพ และงานกราฟฟิกต่าง ๆ อีกทั้งยังเหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษาที่ต้องการโน๊ตบุ๊คไว้ใช้ทำงานเป็นหลัก แล้วก็อาจจะไปนำเล่นเกมได้บ้าง
MSI Prestige PS42 8RA เป็นโน๊ตบุ๊คสำหรับมืออาชีพหน้าจอ 14 นิ้ว สุดบางเฉียบ มีจุดเด่นเรื่องความบางเบา และมีประสิทธิภาพเยี่ยม ทำให้มันกลายมาเป็น Ultrabook ที่มีขนาดกระทัดรัด ดีไซน์ภายนอกจะเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีเงิน เพื่อให้มีความเรียบหรูมากขึ้น และมาพร้อมกับไฟ Keyboard สีขาว ด้านบน Touchpad จะมีที่สแกนลายนิ้วมือด้วย โดยที่วัสดุตัวเครื่องจะทำมาจากอลูมิเนียม และมีน้ำหนักเพียง 1.19 กิโลกรัม เบามาก!! ถือมือเดียวได้สบายๆ ตัวเครื่องก็บางเฉียบเพียง 15.9 มิลลิเมตรเท่านั้น
ส่วนสเปคด้านในอย่างชิปประมวลผล Core i5-8265U ทำงานร่วมกับการ์ดจอ GeForce MX250 ก็ถือว่าแรงพอตัว ประสิทธิภาพการทำงานดีกว่ารุ่นก่อนๆ มาก เมื่อดูจากรายละเอียดโดยรวมแล้วจะพบว่ามันเป็น Ultrabook ที่มีความบางเบา ส่วนสเปคภายในจะเป็นเน้นความประหยัดพลังงาน แต่ก็ใช้เล่นเกมได้บ้าง MSI Prestige PS42 8RA จึงจัดเป็น Ultrabook ที่เหมาะกับคนที่เน้นทำงาน เล่นเกมบ้าง และต้องการความบางเบา แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานประมาณนึง แต่ก็ไม่นานถึงขนาด 10 ชั่วโมงตามที่ทาง MSI เคลมเอาไว้
ในแง่ของการดีไซน์ MSI Prestige PS42 8RA ที่ค่อนข้างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ด้วยโลหะวัสดุอลูมิเนียมลวดลายผ้าไหม ในเส้นสายแบบเหลี่ยมๆ คม แบบเงินๆ และยังมาพร้อมความบาง เบาพกพาง่ายมาก แต่แฝงไปด้วยสเปคทรงประสิทธิภาพเล่นเกมออนไลน์ปี 2018 ลื่นเกินราคา ซึ่งถ้าเทียบกับคู่แข่งแล้ว ทั้งราคาและสเปกภายในถือว่ามีความคุ้มค่ามากๆ ได้ทั้งการ์ดจอและ SSD ที่แรงกว่า ยังไงใครต้องการโน๊ตบุ๊คพกพาเน้นทำงานเป็นหลักเล่นเกมบ้าง MSI Prestige PS42 ก็ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว
ปิดท้ายด้วยการแกะงัดเพื่อจะอัปเกรดหรือทำความสะอาดตัวเครื่องด้านในของ MSI Prestige PS42 8RA ที่อาจจะทำได้ยากหน่อย ต้องระวังในแกะ ด้วยการไขน๊อตออกใต้ตัวเครื่อง จากนั้นค่อยดึงทีละส่วนทีละด้านออกจากสลัก โดยเมื่อเปิดฝาล่างขึ้นมาก็จะพบกับ เมนบอร์ดด้านหลัง พร้อมพัดลมระบายความร้อน 2 ตัว และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่พอตัวเมื่อเทียบกับเครื่อง ที่สำคัญคือลำโพลงรุ่นใหม่ที่สามารถขยับได้ ซึ่งการที่อัพเกรดนั้นต้องรื้อเมนบอร์ดอีกด้านขึ้นมา โดยรองรับแรมที่ 1 ช่อง ทำให้ถ้าจะอัพเกรดเป็น 16GB ต้องถอด 8GB แถวเดียวออกก่อน แนะนำตรงนี้เลยว่าแนะนำให้ช่างชำนาญของทาง MSI ทำจะดีกว่า ทำเองถ้าเสียหายไปอาจจะไม่คุ้มได้
โดย MSI Prestige PS42 8RA ตอนนี้มีจำหน่ายอยู่ 2 รุ่น 2 สเปกด้วยกัน ต่างกันที่ชิปประมวลผลกับแรม ที่ส่วนตัวแล้วในการเลือกซื้อ แนะนำว่าให้เลือกซื้อตามงบประมาณที่มีอยู่เลย เพราะไม่ว่าจะซื้อรุ่นราคา 26,900 บาท ก็แรงคุ้มค่า ส่วนถ้าจัด 35,900 บาท ก็แรงสุดทางไม่ต้องอัพเกรดอะไรใดๆ ในอนาคตเลย
- Core i5-8265U / MX250 / RAM 8GB / SSD 512GB / Windows 10 ราคา 26,900 บาท
- Core i7-8565U / MX250 / RAM 16GB / SSD 512GB / Windows 10 ราคา 35,900 บาท
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจ งานประกอบแน่นวัสดุดี แนวเรียบหรู
- ตัวเครื่องบางเฉียบ เล็กกระชับกว่าเดิม โดยมีน้ำหนักเพียง 1.19 กิโลกรัมเท่านั้น
- สเปคแรงพอตัวด้วย Core i5-8265U และการ์ดจอ MX250 แรม 8GB และ SSD512GB
- หน้าจอแสดงผลขอบจอบางเฉียบขนาด 14″ ขอบเขตสี sRGB 92%
- ระบบระบายความร้อน Cooler Boost มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม
- อแดปเตอร์จ่ายไฟ มีขนาดที่เล็กเบา เป็นภาระน้อยลงไปชัดเจน
- มี Windows 10 แท้พร้อมใช้งาน และมีซอฟต์แวร์มากมาย ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง
- ประสิทธิภาพดีทั้งการทำงานและการเล่นเกม
- มีสแกนลายนิ้วมือ Fingerprint ใช้งานสะดวก
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 10 ชั่วโมง
- ราคาไม่แพง คุ้มค่า เมื่อเทียบกับสเปกและฟีเจอร์
ข้อสังเกต
- การแกะงัดทำได้ไม่ง่าย ไม่แนะนำให้ทำเองเพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาด
- ทัชแพดปุ่มกดแข็งไปเล็กน้อย
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14″ ด้วยกัน ซึ่ง MSI Prestige PS42 8RA ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาของ MSI Prestige PS42 8RA อยู่ในระดับที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปชัดเจน ทั้งในความบางเฉียบที่ 15.9 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบาเพียง 1.19 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมอแดปเตอร์ก็เบาและเล็กกว่าปกติมากๆ ถือว่ามีการพัฒนาไปในทุกส่วน รวมแล้วหนักแค่ 1.4 กิโลกรัมนิดๆ เท่านั้น โดยสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ แบตก็ใช้งานได้ถึง 10 ชั่วโมงจริงๆ ตามที่เคลมไว้เลย
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ MSI มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนในMSI Prestige PS42 8RA ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวในมิติที่เล็กกระชับลงกว่าเดิม ขอบจอบางเฉียบ แต่มีการออกแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ออกแนวพรีเมียมและเรียบหรูมากยิ่งขึ้น ด้วยการใช้การสีเงินสว่าง ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาเชื่อได้ว่าหลายๆ คน ที่เป็นสายทำงานมืออาชีพ หรือต้องการโน๊ตบุ๊คที่มีความเรียบง่ายต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน
Best Value
คุ้มค่าจริงๆ กับราคา 26,900 บาท ได้ฟีเจอร์จัดเต็ม สเปกเป็นชิปประมวลผลเป็น Intel Core i5-8265Uทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวบนอย่าง NVIDIA GeForce MX250 (2GB GDDR5) ที่ทั้ง 2 อย่างนี้แรงเหลือเฟือในการใช้งานทั่วไป มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8GB แบบ DDR4 แน่นอนทั้งตัวเครื่องนั้นแทบไม่ต้องอัพเกรดอะไร ลื่นไหลที่สุดอย่างไร้กังวล รองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
VDO Review
Specification
สเปกภายในของตัว MSI Prestige PS42 8RA ที่เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด ที่เราได้รับมาทดสอบจะเป็นรุ่น Core i5 โดยมาพร้อมขนาดหน้าจอ 14 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ซึ่งให้สีสันที่สวยสมจริง มุมมองกว้างถึง 170 องศา ด้านประสิทธิภาพด้วยอย่างการใช้ชิปประมวลผล Intel Core i5-8265U ความเร็ว 1.6GHz ที่สามารถเร่งการทำงานไปได้ถึง 3.9GHz โดยเป็นชิปประหยัดพลังงานพิเศษ แบบ 4 คอร์ 8 เทรด ซึ่งแน่นอนว่าให้ทั้งความแรงและใช้งานได้ยาวนาน เป็นสถาปัตยกรรม Intel Core i Gen 8 (Whiskey Lake)
ส่วนแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB DDR4 Bus 2666 MHz ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานแน่นอน ในส่วนของกราฟิกการ์ดก็เป็น NVIDIA GeForce MX250 2GB GDDR5 ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานรองรับ 3 มิติได้ดี เล่นเกมออนไลน์ได้สบายๆ สำหรับฮาร์ดดิสก์ความเร็วสูงแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wireless AC และ Bluetooth 5.0 ด้วย อีกทั้งยังมีน้ำหนักเพียง 1.19 กิโลกรัมเท่านั้น !!!
นอกจากนี้ในส่วนของกล้องด้านหน้ารองรับการใช้งาน VDO Call ติดตั้งไว้ใต้หน้าจอ เพราะขอบจอบางมากๆ รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้มาใช้งานได้ทันทีในการเปิดเครื่องครั้งแรก สนนราคา MSI Prestige PS42 8RA อยู่ที่ 26,900 บาท ส่วนอีกรุ่นที่เป็นสเปก Core i7-8565U และได้แรม 16GB จะมีราคาอยู่ที่ 35,900 บาท พร้อมการรับประกัน 2 ปี ตามมาตรฐานของ MSI
- Core i5-8265U / MX250 / RAM 8GB / SSD 512GB / Windows 10 ราคา 26,900 บาท
- Core i7-8565U / MX250 / RAM 16GB / SSD 512GB / Windows 10 ราคา 35,900 บาท
Hardware / Design
สำหรับ MSI Prestige PS42 8RA ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบา (มากๆ ด้วย) แต่ให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดี ในราคาที่คุ้มค่าที่สุดรุ่นนึงในตลาด โดยถูกต่อยอดมาจาก MSI Prestige รุ่นก่อนทำได้ดีมากๆ ในเรื่องของการดีไซน์ที่เน้นความบางเบา พกพาได้สะดวก โดยยังรักษาความเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานมืออาชีพได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.19 กิโลกรัม ทำให้ถือมือเดียวได้สบายๆ การออกแบบให้ความรู้สึกที่พรีเมียมหรูกราด้วยวัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง
โดยฝาหลังและดีไซน์ทั้งหมดมีการเลือกใช้ให้มีความเข้ากันอย่างที่สุด กับพื้นผิวส่วนของฝาหลังและตัวเครื่องด้านในเป็นลวดลายแบบปัดเสี้ยน พร้อมกับใช้สีเงิน Silver และเทาสว่าง ตลอดทั้งตัวเครื่อง ตั้งแต่โลโก้ ขอบตัวเครื่อง ทัชแพด แกนบานพับ ช่องระบายความร้อน ซึ่งดูแล้วเป็นการเปลี่ยนจากรูปแบบเดิมๆ ที่โน๊ตบุ๊คสายทำงานมืออาชีพต้องดูดำๆ ดีไซน์โบราณ ให้กลายเป็นโน๊ตบุ๊คที่ดูน้อยแต่ให้ภาพลักษณ์ที่ดีเยี่ยมได้แทนนั่นเอง เชื่อได้ว่าหลายคนน่าจะเห็นตรงกันด้วย
ส่วนปุ่มเปิดปิดเครื่องจะอยู่ตรงกลางเหนือชุดคีย์บอร์ด พร้อมบริเวณรอบๆ ก็เป็นช่องดูดลมเย็นเช่นกันเพื่อให้ช่วยระบายความร้อนที่ดีกว่าเดิม ส่วนไฟ LED แสดงสถานะการทำงาน ต่างๆ จะอยู่ขอบตัวเครื่องด้านซ้ายสวยงาม MSI Prestige PS42 8RA ใช้เทคโนโลยี Cooler Boost แบบพัดลม 2 ตัวอยู่ทางด้านหลังและด้านข้างของตัวเครื่อง เป่าไล่ลมร้อนผ่านชุดระบายที่แยกการระบายความร้อนระหว่างชิปประมวลผล (พัดลม 1 ตัว) และกราฟิกการ์ด (พัดลม 1 ตัว) ด้วย Heat Pipes รวมกันถึง 3 เส้น โดยแยกฝั่ง CPU และ GPU ออกจากกัน ในเรื่องของอุณหภูมิ และความทนทานในการใช้งานฮาร์ดแวร์ในระยาวไม่ว่าจะทำงานหนักแค่ไหนก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความร้อนสะสม
ที่สำคัญไม่พูดไม่ได้เลยกับขอบหน้าจอที่บางลงอย่างเห็นได้ชัดที่ 5.7 มิลลิเมตร ทั้งด้านซ้ายขวาและขอบบน กล้องเว็บแคมถูกติดตั้งลงไปบนขอบที่บางมากๆ ซึ่งการใช้งานจริงมุมมองมันก็จะดูปกติดี ต่างจากบางแบรนด์ที่เลือกย้ายที่ไปเลย ส่วนความบางตัวเครื่องอยู่ที่ 15.9 มิลลิเมตรเท่านั้น โดยรวมถือได้ว่า MSI นำเสนอโน๊ตบุ๊คที่ทั้งเบามากๆ แถมยังบางสุดๆ ในความแรงและระบบระบายความร้อนที่ดี ท้าชนกับแบรนด์อื่นๆ ได้อย่างสบายๆ เลย
ด้านฐานล่างตัวเครื่องจากรุ่นก่อนใช้วัสดุผ้าอลูมิเนียมชิ้นเดียวตลอดทั้งชิ้น ลักษณะเป็นอะลูมิเนียมเรียบๆ แตกต่างจากฝาหลังและตัวเครื่องด้านใน พร้อมมียางรองจำนวน 5 จุด ช่วยยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ช่วยส่งมวลลมเย็นถูกดูดเข้าช่องลมขนาดใหญ่ได้มากขึ้นส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดี ซึ่งเป็นเรื่องที่ทาง MSI ใส่ใจเป็นพิเศษอยู่แล้วไม่แพ้ฝั่ง Gaming Notebook เลย
ส่งผลให้ตลอดทั้งตัวเครื่องมีมิติตัวเครื่องที่เล็กลงกว่าโน๊ตบุ๊คทำงานหน้าจอ 14″ ทั่วไป ซึ่งโดยรวมแล้ว MSI Prestige PS42 8RA ไม่ใช่แค่บางเบาและสเปกดีแต่ในประสบการณ์ใช้งานที่ประทับใจ เรียกได้ว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในโน๊ตบุ๊คสายบางเบาเน้นพกพาช่วงงบประมาณไม่เกิน 30,000 บาทก็ว่าได้เลย ที่แม้ราคาจะไม่แพงแบบแบรนด์อื่นๆ แต่จัดเต็มทุกฟีเจอร์จริงๆ บอกได้เต็มบอกว่าคุ้มค่าน่าซื้อจริงๆ
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ MSI Prestige PS42 8RA เห็นแล้วต้องบอกว่าแตกต่างจากโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ของทาง MSI แบบสิ้นเชิง ทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด ด้วยการที่รูปแบบปุ่มมีขนาดที่ใหญ่โตกว่าคีย์บอร์ด MSI แบบเดิมๆ ที่สำคัญด้วยไฟ LED สีขาวสวยงาม เข้ากับตัวปุ่มสีเงินเทาเป็นอย่างดี ดูแล้วสะอาดตา พรีเมียมสุดๆ แน่นอนว่าไม่มีชุด Numpad อยู่แล้ว จากการที่ตัวเครื่องมีมิติที่ลงนั่นเอง
ทัชแพดมีขนาดใหญ่ โดยดูเป็นเนื้อเดียวกับตัวเครื่อง ตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด ส่วนปุ่มคลิกทั้งซ้ายขวาก็อาจจะมีความแข็งพอดีๆ การใช้งานโดยจัดได้ว่าอยู่ในระดับรับได้ มีการตัดขอบด้านบนดูโค้งมน เข้ากับตัวเครื่องโดยรวม อีกทั้งมีฟีเจอร์อย่างสแกนลายนิ้วมือ Fingerprint ติดตั้งไว้มุมขวาบนของทัชแพดไว้ให้ใช้งานร่วมกับ Windows Hello เพื่อที่จะเข้าใช้งานตัวเครื่องเพื่อความปลอดภัยแบบไม่ต้องใส่รหัสไปมาทุกครั้งอีกด้วย ส่วนการใช้งานก็ตอบสนองได้รวดเร็วไม่แพ้มือถือในปัจจุบันเลยล่ะ
Screen / Speaker
MSI Prestige PS42 8RA ได้ติดตั้งหน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานที่ค่อนข้างน่าประทับใจ โดยการใช้หน้า Desktop ปกติที่ตัวหนังสือหรือปุ่มต่างๆ มีความเรียบเนียนตาทำให้ใช้งานได้สะดวก ขอบจอจะเป็นพลาสติกสีดำบางฉียบเพียง 5.7 มิลลิเมตรเท่านั้น เรียกได้ว่ากำลังพอดีทีเดียวในการแสดงผลใช้งาน
ด้วยความที่จอเป็นแบบด้านพาเนล IPS ที่ให้เรื่องสีสันสดใส แต่ในการใช้งานไม่ควรหันจอไปทางแหล่งกำเนิดแสงหรือในที่ที่สว่างมากๆ เพราะอาจจะรบกวนการทำงานของเราได้ เมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี ส่วนบานพับก็แข็งแรงกว่ารุ่นพร้อมกางได้ถึง 180 องศา โดยมีมุมมองของเว็บแคมที่แปลกตากว่ากว่ารุ่นอื่นๆ เพราะติดตั้งไว้ขอบหน้าจอด้านล่าง
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่นเล็กน้อย
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 92% และ AdobeRGB ที่ 72% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันแค่พอใช้เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ควรคาลิเบรตเสียก่อน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องมุมล่างด้านซ้ายและขวาเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ไม่มีผิดเพี้ยน แต่สำหรับช่องมุมบนซ้ายเจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปที่ 9% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ลำโพงยังจัดวางมาในตำแหน่งส่วนของขอบตัวเครื่องด้านหน้าในส่วนด้านใต้เครื่อง แบบขนาด 2W x 2 คุณภาพเสียงจัดว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปเล็กน้อย เพราะชุดลำโพงข้างในขยับได้เมื่อต้องการเสียงทุ่มโดยมีซอฟแวร์ปรับแต่งเสียง Nahimic เวอร์ชั่น 3 สู่ระบบเสียงที่ดีที่สุด คุณภาพเสียงการใช้งานต่าง ๆ ยังสามารถทำออกมาได้ดี น่าประทับใจให้เสียงที่ดังพอตัว
Connector / Thin And Weight
MSI Prestige PS42 8RA จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานบางเบาหน้าจอ 14″ ซึ่งมีขนาดและมิติโดยรวมเล็กกระทัดรัดกว่าปกติ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น 2 x USB 3.1 Type-A , USB 3.1 Type-C, 1x HDMI 1.4, SD Card Reader และ Mic-in/Headphone-out อย่างไรก็ตาม พอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ อาจจะดูไม่มากมายเท่าพวกโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ แต่ในการใช้งานจริงก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้วล่ะ อีกทั้งมีเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 802.11 ac พร้อมใช้งานตามมาตรฐานโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ปี 2019
ส่วนของการพกพาของ MSI Prestige PS42 ก็ถือว่าทำได้เยี่ยมยอดเมื่อเทียบกับสเปก ด้วยน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.19 กิโลกรัมเท่านั้น ดีกว่าตามมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คค่ายอื่นๆ ที่ใช้สเปกนี้มาก ที่สำคัญอแดปเตอร์จ่ายไฟที่ 65 Watt นั้น มีขนาดที่เล็กและเบาเช่นเดียว พร้อมมีซอฟต์เคสให้ด้วย ทำให้การพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ เป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวก น้ำหนักโดยรวมแล้วไม่เกิน 1.5 กิโลกรัมแน่นอน นับว่า MSI Prestige PS42 8RA เป็นอีกหนึ่งโน๊ตบุ๊คสายทำงานจริงจังที่เหมาะกับการใช้งานตามร้านกาแฟ ออฟฟิศ มหาวิทยาลัยมากๆ เครื่องหนึ่ง
Performance / Software
MSI Prestige PS42 8RA มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home Single Language มาตั้งแต่แกะกล่อง ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องลิขสิทธิ์ Windows เลยครับ ส่วนถ้าต้องการเคลียร์เครื่อง ก็สามารถใช้งานฟังก์ชัน Reset this PC ที่อยู่ใน Settings ของ Windows 10 ได้เลยโดยไม่ต้องฟอร์แมต SSD เพื่อลง Windows ใหม่
เมื่อตรวจสอบข้อมูลของชิปประมวลผลด้วยโปรแกรม CPU-Z ก็พบว่าข้อมูลขึ้นมาครบถ้วนเลยครับ โดย MSI Prestige PS42 8RA เป็นรุ่นชิป Intel Core i5-8265U ที่มี 4 คอร์ 8 เธรดสำหรับการประมวลผล ความเร็วพื้นฐานอยู่ที่ 1.6 GHz ไปจนถึง 3.9 GHz มีค่า TDP ในการปลดปล่อยความร้อนสูงสุดแค่ 15W เท่านั้น ซึ่งจัดว่าต่ำมากสำหรับชิป Core i5 ในโน๊ตบุ๊ค ทำให้ตัวเครื่องโดยรวมไม่ร้อนจนเกินไป ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากการใช้สถาปัตยกรรมการผลิตที่ระดับ 14 นาโนเมตรเท่านั้น
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 620 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา และนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการ์ดจอน้องเล็กรุ่นล่าสุดอย่าง NVIDIA GeForce MX250 (2GB GDDR5) ที่ประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับ GTX 950m เลยทีเดียว ซึ่งสามารถเล่นเกม 3 มิติ พอได้บ้าง เดี๋ยวไปดูผลทดสอบกันอีกที
ส่วนการทดสอบพลังประมวลผลด้วยโปรแกรม Cinebench ก็ให้ผลคะแนนในส่วนของ CPU ได้ดีตามระดับของ Core i5 ในรหัส U ส่วนด้านของ OpenGL ก็คะแนนพุ่งกว่าเครื่องที่ใช้ชิปออนบอร์ดทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นประหยัดพลังงาน ที่ใกล้เคียงกับตระกูล H ทีเดียว โดยดีขึ้นกว่า Core i5 รุ่นก่อนหน้าประมาณนึง
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้เป็น SSD ความเร็วสูงแบบ NVMe M.2 ระดับกลางๆ ที่ความจุ 512GB ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจ กับความเร็วระดับ Read: 1566 MB/s – Write: 829 MB/s ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือแบบลูกผสมอย่าง SSHD แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด การใช้งานโดยรวมก็ลื่นไหลน่าประทับใจมากๆ
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3,423 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ ส่วนถ้าเอาไปใช้งานหนักๆ เช่นงานประมวลผล ตัดต่อวีดีโอ โปรเซสไฟล์ภาพความละเอียดสูง รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติ ซึ่งก็พอได้ แต่คงตอบสนองได้ไม่เท่าพวก Gaming Notebook หรือโน๊ตบุ๊คแรงๆ ที่ใช้ Core i ตระกูล H และการ์ดจอ GTX / RTX
ทดสอบเกมสำหรับ MSI Prestige PS42 8RA คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 3 ออนไลน์ เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยค่อนข้างลื่นไหล น่าประทับใจทีเดียว เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คที่ไม่ได้เน้นเล่นเกมมาก ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i5-8265U ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce MX250 ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 รวมไปถึง SSD ก็ส่งผลช่วยด้วย
เกมออนไลน์อย่าง DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมด ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ใกล้เคียง 60 ขึ้นไปตลอด แต่ในส่วนของเกมอื่นๆ อย่าง Overwatch / PUBG ที่ปรับกลางๆ เรียกได้ว่ามีเฟรมเรทตกไปต่ำกว่า 30 เลย ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเป็นเกมออนไลน์ที่กินทรัพยากรพอตัวเหมือนกัน ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ อยู่
ที่สำคัญยังมี Creator Center เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบและพัฒนาโดย MSI ซึ่งคล้ายกับ Dragon Center เป็นโปรแกรมที่เป็นจุดเด่นของ Gaming MSI ก็ถูกมาปรับใช้ใน MSI Prestige PS42 8RA นี้ด้วย จุดเด่นคือใช้งานง่ายและสามารถช่วยเหลือ และ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Notebook ได้อย่างลงตัว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ของทาง MSI ก็ว่าได้ ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยหน้าเมนูมีอาทิเช่น
- Creator Mode : ศูนย์รวมโปรแกรม ที่ใช้งานในงานสร้างสรรค์ต่างๆ ที่เรามี
- System Monitoring : ตรวจสอบสถานะเครื่อง (ประสิทธิภาพ,ความเร็วของพัดลม,ความร้อน)
- System Tuner : ปรับแต่งตั้งค่าการใช้งานต่างๆของ MSI Notebook
- Battery Master : ปรับแต่งการชาร์จแบตเตอรี่ให้เหมาะกับการใช้งาน
- Tools & Help : ติดต่อ MSI และ ฟังก์ชั่นช่วยเหลือต่างๆ ที่จำเป็น
หรือจะย่อเป็นหน้าต่างโปรแกรมเล็กๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน ก็ดูเก๋ๆ ไปอีกแบบ สะดวกใช้งานด้วย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI Prestige PS42 8RA เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว พร้อมปรับเป็น Power Saver Mode และ Super Battery โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราว 10 ชั่วโมงโดยประมาณ ถือว่าใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานอย่างที่เคลมเอาไว้ว่าที่ 10 ชั่วโมง แต่โดยส่วนตัวก็ถือว่าดีเยี่ยม คราวนี้จะพกพาอแดปเตอร์ไปด้วยก็แล้วแต่การใช้งานของเราเลย
สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 33 – 43 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของ CPU อยู่ที่ไม่เกิน 90 องศาเซลเซียส และ GPU อยู่ที่ไม่เกิน 92 องศาเซลเซียส ส่วนเสียงพัดลมก็ดังพอสมควร จากการที่เปิดฟีเจอร์ Cooler Boots เพิ่มรอบพัดลมเป็น 6,000 รอบต่อ แต่ถ้าใช้งานทั่วไป พัดลมแทบไม่มีเสียงเลย
Conclusion / Award
ยอมรับเลยว่า MSI Prestige PS42 8RA เป็นโน๊ตบุ๊คสายบางเบา แต่ให้ประสิทธิภาพการทำงานที่สูง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คสายทำงาน ในราคาที่ไม่แพงจัดว่าคุ้มค่ามากๆ เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ วัสดุการออกแบบที่ดูพรีเมียม น้ำหนักที่เบากว่า ในสเปกที่สูงกว่า ฟีเจอร์ที่มากกว่า การระบายความร้อนที่ดีกว่า ที่สำคัญคือได้ราคาที่ถูกกว่า คุ้มค่ากว่า
จากที่ปกติเราจะเห็นแต่สาย Gaming ถึงเวลาที่ MSI จะต้องออกผลิตภัณฑ์ตระกูล Prestige ตัวใหม่ จึงนำมาประยุกต์เข้ากับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ และตัวเองถนัด อย่างการนำข้อดีต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ตระกูล Gaming มาทำให้มีความเป็นมืออาชีพ เหมาะสำหรับการทำงานที่เกี่ยวข้องกับภาพ และงานกราฟฟิกต่าง ๆ อีกทั้งยังเหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษาที่ต้องการโน๊ตบุ๊คไว้ใช้ทำงานเป็นหลัก แล้วก็อาจจะไปนำเล่นเกมได้บ้าง
MSI Prestige PS42 8RA เป็นโน๊ตบุ๊คสำหรับมืออาชีพหน้าจอ 14 นิ้ว สุดบางเฉียบ มีจุดเด่นเรื่องความบางเบา และมีประสิทธิภาพเยี่ยม ทำให้มันกลายมาเป็น Ultrabook ที่มีขนาดกระทัดรัด ดีไซน์ภายนอกจะเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีเงิน เพื่อให้มีความเรียบหรูมากขึ้น และมาพร้อมกับไฟ Keyboard สีขาว ด้านบน Touchpad จะมีที่สแกนลายนิ้วมือด้วย โดยที่วัสดุตัวเครื่องจะทำมาจากอลูมิเนียม และมีน้ำหนักเพียง 1.19 กิโลกรัม เบามาก!! ถือมือเดียวได้สบายๆ ตัวเครื่องก็บางเฉียบเพียง 15.9 มิลลิเมตรเท่านั้น
ส่วนสเปคด้านในอย่างชิปประมวลผล Core i5-8265U ทำงานร่วมกับการ์ดจอ GeForce MX250 ก็ถือว่าแรงพอตัว ประสิทธิภาพการทำงานดีกว่ารุ่นก่อนๆ มาก เมื่อดูจากรายละเอียดโดยรวมแล้วจะพบว่ามันเป็น Ultrabook ที่มีความบางเบา ส่วนสเปคภายในจะเป็นเน้นความประหยัดพลังงาน แต่ก็ใช้เล่นเกมได้บ้าง MSI Prestige PS42 8RA จึงจัดเป็น Ultrabook ที่เหมาะกับคนที่เน้นทำงาน เล่นเกมบ้าง และต้องการความบางเบา แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานประมาณนึง แต่ก็ไม่นานถึงขนาด 10 ชั่วโมงตามที่ทาง MSI เคลมเอาไว้
ในแง่ของการดีไซน์ MSI Prestige PS42 8RA ที่ค่อนข้างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ด้วยโลหะวัสดุอลูมิเนียมลวดลายผ้าไหม ในเส้นสายแบบเหลี่ยมๆ คม แบบเงินๆ และยังมาพร้อมความบาง เบาพกพาง่ายมาก แต่แฝงไปด้วยสเปคทรงประสิทธิภาพเล่นเกมออนไลน์ปี 2018 ลื่นเกินราคา ซึ่งถ้าเทียบกับคู่แข่งแล้ว ทั้งราคาและสเปกภายในถือว่ามีความคุ้มค่ามากๆ ได้ทั้งการ์ดจอและ SSD ที่แรงกว่า ยังไงใครต้องการโน๊ตบุ๊คพกพาเน้นทำงานเป็นหลักเล่นเกมบ้าง MSI Prestige PS42 ก็ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว
ปิดท้ายด้วยการแกะงัดเพื่อจะอัปเกรดหรือทำความสะอาดตัวเครื่องด้านในของ MSI Prestige PS42 8RA ที่อาจจะทำได้ยากหน่อย ต้องระวังในแกะ ด้วยการไขน๊อตออกใต้ตัวเครื่อง จากนั้นค่อยดึงทีละส่วนทีละด้านออกจากสลัก โดยเมื่อเปิดฝาล่างขึ้นมาก็จะพบกับ เมนบอร์ดด้านหลัง พร้อมพัดลมระบายความร้อน 2 ตัว และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่พอตัวเมื่อเทียบกับเครื่อง ที่สำคัญคือลำโพลงรุ่นใหม่ที่สามารถขยับได้ ซึ่งการที่อัพเกรดนั้นต้องรื้อเมนบอร์ดอีกด้านขึ้นมา โดยรองรับแรมที่ 1 ช่อง ทำให้ถ้าจะอัพเกรดเป็น 16GB ต้องถอด 8GB แถวเดียวออกก่อน แนะนำตรงนี้เลยว่าแนะนำให้ช่างชำนาญของทาง MSI ทำจะดีกว่า ทำเองถ้าเสียหายไปอาจจะไม่คุ้มได้
โดย MSI Prestige PS42 8RA ตอนนี้มีจำหน่ายอยู่ 2 รุ่น 2 สเปกด้วยกัน ต่างกันที่ชิปประมวลผลกับแรม ที่ส่วนตัวแล้วในการเลือกซื้อ แนะนำว่าให้เลือกซื้อตามงบประมาณที่มีอยู่เลย เพราะไม่ว่าจะซื้อรุ่นราคา 26,900 บาท ก็แรงคุ้มค่า ส่วนถ้าจัด 35,900 บาท ก็แรงสุดทางไม่ต้องอัพเกรดอะไรใดๆ ในอนาคตเลย
- Core i5-8265U / MX250 / RAM 8GB / SSD 512GB / Windows 10 ราคา 26,900 บาท
- Core i7-8565U / MX250 / RAM 16GB / SSD 512GB / Windows 10 ราคา 35,900 บาท
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจ งานประกอบแน่นวัสดุดี แนวเรียบหรู
- ตัวเครื่องบางเฉียบ เล็กกระชับกว่าเดิม โดยมีน้ำหนักเพียง 1.19 กิโลกรัมเท่านั้น
- สเปคแรงพอตัวด้วย Core i5-8265U และการ์ดจอ MX250 แรม 8GB และ SSD512GB
- หน้าจอแสดงผลขอบจอบางเฉียบขนาด 14″ ขอบเขตสี sRGB 92%
- ระบบระบายความร้อน Cooler Boost มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม
- อแดปเตอร์จ่ายไฟ มีขนาดที่เล็กเบา เป็นภาระน้อยลงไปชัดเจน
- มี Windows 10 แท้พร้อมใช้งาน และมีซอฟต์แวร์มากมาย ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง
- ประสิทธิภาพดีทั้งการทำงานและการเล่นเกม
- มีสแกนลายนิ้วมือ Fingerprint ใช้งานสะดวก
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 10 ชั่วโมง
- ราคาไม่แพง คุ้มค่า เมื่อเทียบกับสเปกและฟีเจอร์
ข้อสังเกต
- การแกะงัดทำได้ไม่ง่าย ไม่แนะนำให้ทำเองเพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาด
- ทัชแพดปุ่มกดแข็งไปเล็กน้อย
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14″ ด้วยกัน ซึ่ง MSI Prestige PS42 8RA ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาของ MSI Prestige PS42 8RA อยู่ในระดับที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปชัดเจน ทั้งในความบางเฉียบที่ 15.9 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบาเพียง 1.19 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมอแดปเตอร์ก็เบาและเล็กกว่าปกติมากๆ ถือว่ามีการพัฒนาไปในทุกส่วน รวมแล้วหนักแค่ 1.4 กิโลกรัมนิดๆ เท่านั้น โดยสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ แบตก็ใช้งานได้ถึง 10 ชั่วโมงจริงๆ ตามที่เคลมไว้เลย
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ MSI มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนในMSI Prestige PS42 8RA ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวในมิติที่เล็กกระชับลงกว่าเดิม ขอบจอบางเฉียบ แต่มีการออกแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ออกแนวพรีเมียมและเรียบหรูมากยิ่งขึ้น ด้วยการใช้การสีเงินสว่าง ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาเชื่อได้ว่าหลายๆ คน ที่เป็นสายทำงานมืออาชีพ หรือต้องการโน๊ตบุ๊คที่มีความเรียบง่ายต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน
Best Value
คุ้มค่าจริงๆ กับราคา 26,900 บาท ได้ฟีเจอร์จัดเต็ม สเปกเป็นชิปประมวลผลเป็น Intel Core i5-8265Uทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวบนอย่าง NVIDIA GeForce MX250 (2GB GDDR5) ที่ทั้ง 2 อย่างนี้แรงเหลือเฟือในการใช้งานทั่วไป มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8GB แบบ DDR4 แน่นอนทั้งตัวเครื่องนั้นแทบไม่ต้องอัพเกรดอะไร ลื่นไหลที่สุดอย่างไร้กังวล รองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล